ESG กับ European green deal โอกาสสำคัญสำหรับ SMEs ไทย
ESG กับ European green deal โอกาสสำคัญสำหรับ SMEs ไทย
ESG กับ European Green Deal โอกาสสำคัญสำหรับ SMEs ไทย
European Green Deal เป็นยุทธศาตร์สำคัญของสหภาพยุโรป (EU) ที่มุ่งเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจสู่งความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 โดนเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว และการสร้างมาตราฐานด้านความยั่งยืน แม้ว่านโยบายมุ้งเป้าไปที่องค์กรขนาดใหญ่ในระยะแรก แต่ผลกระทบได้เริ่มขยายวงกว้างสู่ห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ซึ่งทำให้ SMEs ไทย ต้องปรับตัว เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองความต้องการในตลาดที่เปลี่ยนแปลง
European Green Deal ไม่ได้เป็นเพียงนโยบายด้านสิ่งแวดล้แมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมในทุกมิติ ตั้งแต่การดูแลแรงงาน การลดความเหลื่อมล้ำไปจนถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตในระดับท้องถิ่นและระดับโลก นโยบายนี้จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการผสมผสานระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั้งยืนและการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนไปพร้อมกัน
ทำไม European Green Deal ถึงสำคัญต่อ SMEs ไทย?
1.) EU เป็นตลาดส่งออกหลักของไทย
สหภาพยุโรปเป็นหนึ่งในตลาดนำเข้าสินค้าสำคัญที่สุดของไทยโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสหกรรมอาหาร เกษตร และสินค้าอุปโภคบริโภค
2.) ความต้องการสินค้าและบริการที่ยังยืนเพิ่มสูงขึ้น
ผู้บริโภคใน EU ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนความยั่งยืน SMEs ที่สามารถตอบสนองความต้องการนี้จะได้เปรียบในตลาด
3.) ขยายผลกระทบสู่ห่วงโซ่อุปทาน
แม้ European Green Deal จะยังไม่กำหนดให้ SMEs ปฏิบัติตามโดยตรง แต่บริษัทขนาดใหญ่ใน EU ซึ่งเเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของ SMEs ไทย กำลังสร้างมาตราฐาน ESG เพื่อให้คู่ค้าปฏิบัติตาม
บทความโดย
ดร. นิ่มนวล ผิวทองงาม
นางสุรัชวดี ไกรสร
นางสาว กนกพร ทีบัว
Ms. Swissa Pradhan